หน้าต่างสุขภาพ



 

Custom Search

 

Idocs Guide to HTMLControl your Emotion

เสียงสวดมนต์ด้วยสมาธิบำบัดโรค

รองศาสตราจารย์ ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี หัวหน้าภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุขคณะ
สาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลอธิบายถึง เสียงสวดมนต์ด้วยสมาธิเป็นยารักษาโรค ใช้
หลักการทำให้เกิดคลื่นเสียงที่มีความสม่ำเสมอ เพื่อเข้าไปกระตุ้นร่างกายให้เกิดการเยียวยา


เสียงสวดมนต์ด้วยสมาธิบำบัดโรค


คลื่นเสียงของบทสวดมนต์ ที่มากระทบจะต้องมีความถี่สม่ำเสมอหากเสียงสวดมนต์ดังแบบไร้ระเบียบ
มีความถี่ต่างๆกันก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อการบำบัด เมื่อหูของเราได้ยินเสียงบทสวดมนต์ก็จะส่งสัญญาณ
ต่อไปยังศูนย์การได้ยินที่อยู่บริเวณสมองและส่งต่อไปยังก้านสมอง

Sticker line

สมองของเราเมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงช้าๆสม่ำเสมอประมาณ 15นาทีขึ้นไปจะทำให้เซลล์ประสาท
ของระบบประสาทสมองสังเคราะห์สารสื่อประสาทหลายๆ ชนิด บริเวณก้านสมองจะหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ
ซีโรโทนิน
(serotonin) เพิ่มขึ้น ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับซึ่งสามารถช่วยในเรื่องทักษะการเรียนรู้
ลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำตาลในเลือด ฯลฯ

สารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทต่างๆ เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเปรียบคล้ายกับยาอายุวัฒนะ เพราะจะ
ช่วยยืดอายุการทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ร่างกายให้ชีวิตยืนยาวขึ้น และยังมีคุณสมบัติช่วยให้นอนหลับ
เพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้เซลล์สดชื่นขึ้น

เสียงสวดมนต์ด้วยสมาธิบำบัดโรค

สารสื่อประสาท ที่ชื่อโดปามีน มีฤทธิ์ลดความก้าวร้าวและอาการพาร์กินสัน

นอกจากนี้ ปริมาณของซีโรโทนินมีความสัมพันธ์ต่อการกระตุ้นการหลั่งสารสื่อประสาทอื่นๆ เช่น
อะเซทิลโคลีน
ช่วยในกระบวนการเรียนรู้และความจำ ช่วยขยายเส้นเลือด ทำให้ความดันลดลงและ
ยังช่วยลดปริมาณอาร์กินิน วาโซเปรสซิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมความก้าวร้าว ความสมดุลของน้ำ

และซีโรโทนินยังเข้าไปลดปริมาณของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นของการทำงานของต่อมหมวก
ไตให้ลดลง ส่งผลให้ระบบประสาทส่วนกลางทำงานน้อยลง ร่างกายจึงรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง และ
ไม่เครียด ภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น ดังนั้นจุดสำคัญจึงอยู่ที่ร่างกายจะสามารถสร้างสารสื่อประสาทได้หรือไม่

อาจารย์สมพร เสริมว่าหลักการสำคัญอยู่ที่หากมีสิ่งเร้าหลายๆ ประเภทเข้ามารบกวนกระบวนการทำงาน
ของคลื่นสมองพร้อมๆ กัน ทำให้สัญญาณคลื่นสมองเปลี่ยนไป การหลั่งสารสื่อประสาทจะสับสน ไม่มี
ผลในการเยียวยา

สิ่งเร้านี้มาจากหลายส่วนทั้งตัวเอง เช่น บางคนปากสวดมนต์ แต่คิดฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่น ก็ไม่ได้ประโยชน์
และการเกิดเสียงดังอื่นๆ เข้ามารบ กวนขณะสวดมนต์ เพราะประสาทสัมผัสของมนุษย์รับรู้ได้ไว และอ่อน
ไหวมาก เรามีตัวประสาทรับสัญญาณได้ทั้งจากทางปาก ตา หู จมูก การเคลื่อนไหว และใจ เหล่านี้ทำให้
สัญญาณคลื่นสมองสับสนและเปลี่ยนไปร่างกายก็จะสร้างซีโรโทนินได้ไม่มากพอ และไม่ใช่เฉพาะสารสื่อ
ประสาท
ที่มีประโยชน์เท่านั้นที่เราจะได้จากการสวดมนต์ แต่การสวดมนต์ยังทำให้อวัยวะต่างๆ
ได้รับการกระตุ้นคล้ายกับการนวดตัวเองจากการเปล่งเสียงสวดมนต์

ข้อมูลอ้างอิงจาก สสส.
พระพุทธศาสนา
140216

สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพเด็ก สุขภาพวัยรุ่น ผู้สูงอายุ การรักษาโรค
ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ผิว ดวงตา ผม ทำงาน การนอน FoodHealth





Copyright2010©remahealth.com All rights reserved by RMWD